เมื่อวันเสาร์ (11 พ.ย.) บริษัท Henry Aldridge & Son ได้จัดการประมูล “สิ่งของที่เหลือรอดจากเรือไททานิก” โดยรอบนี้มีทั้ง เมนูรายการอาหารเย็น ผ้าห่มที่เชื่อว่าเคยถูกใช้ในการช่วยผู้รอดชีวิต นาฬิกาพกของผู้โดยสารที่เสียชีวิต ฯลฯ
เรือไททานิก (RMS Titanic) เป็นเรือโดยสารซึ่งจมลงสู่ก้นมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันที่ 15 เมษายน 1912 หลังชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็งระหว่างการเดินทางเที่ยวแรกจากเซาท์แทมป์ตัน สหราชอาณาจักร ไปยังนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา การจมของไททานิก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1,514 ศพ
เคียงข้างซากไททานิก สรุปทุกรายละเอียด “โศกนาฏกรรมยานดำน้ำไททัน”
ครบรอบ 111 ปี “เรือไททานิก” จากโศกนาฏกรรม สู่จุดท่องเที่ยวใต้ทะเล
ภรรยาพลขับ “เรือดำน้ำไททัน” เป็นลูกหลานผู้เสียชีวิตเรือไททานิก
แม้จะผ่านมามากกว่า 110 ปีแล้ว แต่เรื่องราวของไททานิกยังคงถูกกล่าวถึง เป็นที่กล่าวขาน เป็นแรงบันดาลในการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ แต่ไม่ใช่ทุกอย่างของไททานิกที่จมลงสู่ท้องทะเลอันมืดมิด มีหลายอย่างที่เหลือรอดมาได้ กลายเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับนักสะสมและผู้ที่ศึกษาประวัติศาสตร์โศกนาฏกรรมไททานิก
นั่นจึงนำมาสู่การประมูลของต่าง ๆ จากไททานิก ซึ่งแต่ละครั้งมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก และราคาจบที่ชิ้นละหลายล้านบาทเกือบทุกชิ้น รวมถึงในการประมูลล่าสุดเมื่อวันเสาร์เช่นกัน
ของชิ้นแรกที่น่าสนใจในการประมูลครั้งนี้คือ “เมนูรายการอาหารเย็นสำหรับผู้โดยสารชั้นเฟิร์สคลาส” ขายได้ในราคาประมูล 84,000 ปอนด์ (ราว 3.7 ล้านบาท)
แอนดรูว์ อัลดริดจ์ ผู้จัดการประมูล กล่าวว่า เมนูดังกล่าวเป็นเมนูอาหารเย็นของวันที่ 11 เมษายน 1912 “เมนูนี้ถือเป็นเมนูที่รอดพ้นจากเรือไททานิกที่มีชื่อเสียงที่สุดตลอดกาล”
เขาเสริมว่า เมนูนี้มีการพิมพ์นูนตัวอักษรคำว่า “White Star Line” ซึ่งเป็นชื่อของบริษัทขนส่งที่เป็นเจ้าของเรือไททานิก และแต่เดิมจะแสดงตัวอักษรสีทองที่แสดงชื่อย่อ OSNC (บริษัทเดินเรือกลไฟในมหาสมุทร) ควบคู่ไปกับตัวอักษร “RMS Titanic” ด้วย
อย่างไรก็ตาม เมนูดังกล่าวมีร่องรอยของการแช่น้ำเป็นเวลานาน เนื่องจากข้อความถูกลบไปบางส่วน “สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่า เมนูนี้ถูกแช่อยู่ในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือที่เป็นน้ำแข็งในเช้าวันที่ 15 เมษายน … จากการได้พูดคุยกับนักสะสมของที่ระลึกไททานิกทั่วโลก และปรึกษากับพิพิธภัณฑ์หลายแห่งที่มีคอลเล็กชันไททานิก เราไม่สามารถพบเมนูอาหารวันที่ 11 เมษายนของไททานิกอื่นใดที่หลงเหลืออยู่อีกแล้ว”
อัลดริดจ์บอกว่า เมนูต่าง ๆ เป็นสิ่งที่น่าหลงใหลสำหรับบางคน เนื่องจากมองว่าเป็นความเชื่อมโยงที่จับต้องได้ และยังเป็นต้นแบบสำหรับการสร้างสรรค์เมนูขึ้นมาใหม่ หรือจัดปาร์ตี้หรือร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนูเดียวกับบนเรือทานิก
สำหรับอาหารค่ำที่เสิร์ฟให้กับผู้โดยสารที่ร่ำรวยที่สุดบนเรือ เช่น ปลาแซลมอนกซอสฮอลแลนเดสและปลาไวท์เบต ถั่วลันเตา พาร์สนิป ข้าว มันฝรั่ง อาหารจานหลัก ได้แก่ เนื้อแกะราดซอสมินต์ ไก่ย่างราดซอสขนมปัง และเนื้อสันนอกราดครีมฮอร์สแรดิช รวมถึงเสิร์ฟเป็ดมัลลาร์ดและสลัดก่อนของหวาน ซึ่งเป็น พุดดิ้งวิกตอเรีย แอปริคอตบอร์ดาลู เปอติตม็อกกา และไอศกรีมคำพูดจาก สล็อตวอเลท
“มันช่วยให้เราเห็นภาพรวมของระดับความมั่งคั่ง มันเป็นเรื่องที่หรูหรามาก” อัลดริดจ์กล่าว
ส่วนเรื่องที่ว่าเมนูอาหารเย็นบนไททานิกรอดมาได้อย่างไรนั้น ยังคงเป็นปริศนา อาจมีใครเก็บเมนูไว้ในกระเป๋า อาจติดมากับร่างของผู้เสียชีวิต ไม่มีใครทราบคำตอบ บอกได้เพียงว่า “เมนูนี้รอดมาได้อย่างน่าทึ่ง”
ของชิ้นถัดมาคือ “ผ้าคลุมลายตารางหมากรุก” ซึ่งอาจใช้ในระหว่างการช่วยเหลือผู้โดยสาร ถูกประมูลไปในราคา 96,000 ปอนด์ (4.2 ล้านบาท)
อัลดริดจ์บอกว่า มันคือผ้าคลุมซึ่งมีโลโก้ของ White Star Line ปักไว้ มันถูกซื้อไว้โดยโดยเฟรดเดอริก ท็อปปิน ผู้จัดการ White Star Line ในขณะนั้น เมื่อเขาได้พบกับผู้รอดชีวิตที่กำลังออกมาจากเรือกู้ภัย
อัลดริดจ์บอกว่า “มันเป็นบางสิ่งที่ค่อนข้างเปราะบาง แต่ก็รอดพ้นจากภัยพิบัติอันเลวร้ายได้ การที่ผ้าคลุมถูกคว้าไว้ระหว่างที่จม อาจเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ใครบางคน … ผ้าห่มอาจช่วยชีวิตได้”
และถัดมาคือ “นาฬิกาพก” ที่ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์ของผู้โดยสารชั้นสองชาวรัสเซีย ซินาย คันทอร์ วัย 34 ปี ประมูลขายได้ในราคา 97,000 ปอนด์ (เกือบ 4.3 ล้านบาท)
เข็มบนหน้าปัดนาฬิกาเรือนนี้ชี้ไปที่เวลาประมาณ 02:25 น. ซึ่งเป็นเวลาที่นาฬิกาหยุดเดิน หรือประมาณ 5 นาทีหลังจากที่เรือจม และอาจเป็นในช่วงเวลาที่เจ้าของนาฬิกาจมน้ำ
นาฬิกาพกเรือนนี้ได้รับการเก็บกู้กลับมาพร้อมร่างของคันทอร์ โดยนาฬิกาแสดงตัวเลขฮีบรู ด้านหลังเป็นภาพโมเสสถือคัมภีร์บัญญัติสิบประการ
นาฬิกาพกเป็นหนึ่งในของหลาย ๆ อย่างที่คันทอร์ถือไว้ขณะเสียชีวิต นอกจากนาฬิกาแล้วยังมีหนังสือเดินทาง สมุดบันทึก กระเป๋าสตางค์ และกล้อง
ไมเคิล ฟินด์เลย์ อดีตประธาน Titanic International Society กล่าวว่า ของทั้งหมดถูกส่งคืนให้กับ มิเรียม ภรรยาของเขา ซึ่งรอดชีวิตมาได้เพราะได้ลงเรือชูชีพ ก่อนเสียชีวิต ทั้งคู่เพิ่งแต่งงานกันไม่นาน พวกเขามาจากรัสเซียเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในนิวยอร์ก
“ในคืนที่เกิดภัยพิบัติ เช่นเดียวกับคู่รักหลาย ๆ คู่ พวกเขาถูกบังคับให้แยกกันเพราะกฎให้ผู้หญิงและเด็กลงเรือชูชีพก่อน” ฟินด์เลย์กล่าว
เขาเสริมว่า นอกจากนาฬิกาของคันทอร์แล้ว ยังมีนาฬิกาอีกจำนวนหนึ่งที่เหลือรอดจากเหตุเรืออับปาง และส่วนใหญ่หยุดเดินระหว่างเวลา 02:20 น. ถึง 02:30 น. “ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนจมลงไปในน้ำเมื่อใด”
Henry Aldridge & Son เป็นบริษัทจัดประมูลที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการประมูลขายของที่เหลือรอดจากเรือไททานิก ก่อนหน้านี้ในปี 2017 เสื้อโค้ทขนสัตว์ของพนักงานบริการชั้นหนึ่ง ถูกขายไปในราคา 150,000 ปอนด์ (6.6 ล้านบาท) และในปีเดียวกัน จดหมายของผู้โดยสารเรือไททานิก ออสการ์ โฮลเวอร์สัน ถูกขายไปในราคา 126,000 ปอนด์ (5.5 ล้านบาท)
เรียบเรียงจาก BBC / Washington Post
ภาพจาก
Henry Aldridge & Son
AFP PHOTO / SOUTHAMPTON CITY COUNCIL
สรุปเงื่อนไขเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เงินเดือนไม่ถึง 7 หมื่นได้แน่
วันหยุดเดือนธันวาคม 2566 เช็กเลยมีวันหยุดราชการ-หยุดยาววันไหนบ้าง
มาช้าแต่มาชัวร์! อุตุฯ จ่อประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวสัปดาห์นี้ กทม.อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศา